ดูวิดีโอเรื่องนี้ได้ ที่นี่
เมื่อเตย ชมพูนุช มณีโชติ อายุได้ 26 วัน แม่ได้นำเธอว่าอยู่กับยายที่จังหวัดแพร่ หลังจากนั้นเตยก็แทบไม่ได้พบหน้าพ่อแม่ของเธออีกเลย ตอนนี้เตยอายุ16 ปีแล้วและเป็นเด็กที่ออกจากโรงเรียนกลางคัน เตยชอบขี่มอเตอร์ไซค์กับเพื่อนๆ “หนูเคยเป็นเด็กร้าย เที่ยว บ้านไม่ค่อยเข้า กลับบ้านดึก แบบติดเพื่อน”
แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากที่เตยได้พบกับกลุ่มพลังโจ๋ตอนอยู่มัธยม 3 กลุ่มพลังโจ๋ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กวัยรุ่นที่มีความเสี่ยงในจังเหวัดแพร่ กลุ่มพลังโจ๋ได้รับการสนับสนุนจาก UNFPA กองทุนประชากรแห่งสหประชาติประจำประเทศไทย ที่มุ่งมั่นที่จะทำให้คนหนุ่มสาวทุกๆคนบรรลุถึงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มความสามารถ
UNFPA กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทยทำงานร่วมกับองค์กรภาคประชาชนเพื่อที่จะสร้างพลังให้คนหนุ่มสาวกลุ่มที่มีความเสี่ยงรวมทั้งเด็กที่ออกจากโรงเรียนกลางค้นในจังหวัดแพร่ด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทยได้เปิดโอกาสให้พวกเขาเป็นผู้นำเยาวชนเพื่อที่จะได้นำความรู้เรืองเพศศึกษาและการเจริญพันธ์ รวมทั้งสิทธิต่างๆ ไปเผยแพร่ให้เพื่อนๆ ของพวกเขาได้รับรู้ และเมื่อพวกเขามีความเชื่อมั่นในตนเองมากพอสำหรับครอบครัวและชุมชนบางคนเลือกที่จะกลับไปเรียนต่อ บางคนก็ทำงานส่วนตัว และบางคนก็ทำงานฝีมือ
“กลุ่มพลังโจ๋ชวนหนูให้เข้าร่วมกลุ่มและสอนหนูเรื่องเพศศึกษา” เตยเล่า “หนูมีความรู้เรื่องเพศมากขึ้น และหนูก็เอาความรู้ไปบอกเพื่อนๆ ด้วย”
“เตยเคยเป็นเด็กร้าย” ยายสิงกี่ อินต๊ะเสนเล่า “ขี่รถ เข้าบ้านเที่ยงคืน หรือบ่ายโมง ว่าก็ไม่ได้ ว่าก็ด่า เถียง เตยอย่างดื้อเลย ยายจะไม่เอามันแล้ว เดี๋ยวนี้มันติดไปกับกลุ่ม เลย เดียวนี้เป็นเด็กดีมีเหตุผลขึ้นเยอะเลย”
เตยเล่าว่า “หนูเข้าร่วมกับพลังโจ๋มาได้ประมาณสองปีแล้ว หนูชอบมาก หนูได้ความรู้มากขึ้นทีละนิดและหนูก็เอาสิ่งที่หนูรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษาที่ปลอดภัยไปบอกเพื่อนด้วย”
ปาณิศา อาระนันย์ ผู้ประสานงานกลุ่มพลังโจ๋ อธิบายงานของของกลุ่มว่า ในอำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ก็จะมีหลากหลายกลุ่มวัยรุ่นที่มีความเสี่ยง ในแต่ละวันช่วงเย็น เราก็จะออกไปหาน้องๆไปแลกเปลียนข้อมูลกันว่าน้องให้ความสนใจอะไร ทำอะไร วิถีชิวิตปัจจุบันทำอะไรกันอยู่”
ปาณิศาเริ่มก่อตั้งกลุ่มพลังโจ๋เมื่อห้าปีที่แล้ว โดยเธอหวังว่าจะเข้าถึงวัยรุ่นกลุ่มเสี่ยงต่างๆ เช่นวัยรุ่นที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัว ติดยาเสพติด ติดเกมส์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ปาณิศาเล่าว่าเด็กเหล่านี้ครึ่งหนึ่งออกจากเรียนเรียนกลางคัน
“ในการทำงานเริ่มต้นเราต้องศึกษาพฤติกรรมเขาก่อนว่า เขาเป็นยังไง ในแต่ละกลุ่มจะมีพฤติกรรมต่างกันความสนใจต่างกัน” ปาณิศากล่าว “เราจับจุดได้อย่างหนี่งคือเด็กวัยรุ่นมีความต้องการ การยอมรับในกลุ่มเราก็เห็นว่าประเด็นทีเค้าให้ความสนใจมากที่สุดคือเรื่องเพศ เราให้ถุงยางเขาเพื่อที่เขาจะได้แบ่งให้เพื่อนสมมติเราให้ถุงยางเขาไป 50% คุณได้การป้องกันไปแล้ว อีก 50% คือการตัดสินใจของคุณว่าคุณจะใช้หรือไม่ใช้”
ด้วยวัย 18 ปีและกำลังเป็นพ่อ เบนเล่าถึงความกังวลของเขา “ ผมกับแฟนกำลังมีปัญหา แฟนผมกำลังท้องเจ็ดเดือน” “ ผมไม่ได้ใส่ถุงยาง ผมก็เลยให้แฟนซื้อยาคุมฉุกเฉิน แต่เขากินช้าไป พอแฟนท้องได้สองเดือน ผมก็บอกพ่อ แฟนผมบอกแม่ ตอนแรกเราตัดสินใจที่จะไปทำแท้ง แต่พ่อแม่แฟนไม่ยอม เขาจะเลี้ยงลูกให้ สุดท้ายเราก็แต่งงานกัน” เบนกล่าวเสริม
นอกจากส่งเสริมให้คนหนุ่มสาวตระหนักถึงศักยภาพของตนเองแล้ว UNFPA กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติยังมุ่งเน้นในเรื่องความรับผิดชอบและการมีส่วนร่วมในสังคมอีกด้วย “สังคมไทยมักสอนลูกชายมีอภิสิทธิ” ปาณิศากล่าว “ไม่ค่อยรับผิดชอบอะไรตั้งแต่เด็กๆ พ่อแม่ทำให้หมด พอโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบคือรับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบต่อการมีเพศสัมพันธ์ทีปลอดภัย รับผิดชอบต่อการคุมกำเนิด แต่ถ้ามันเกิดขึ้นมา ความรับผิดชอบของความเป็นพ่อ ต้องเรียนรู้ไปว่าความเป็นพ่อคืออะไร เป็นพ่อต้องเป้นแบบไหน”
ความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญที่ปาณิศาเน้นในกลุ่มพลังโจ๋ เธอส่งเสริมให้ทุกคนในกลุ่มรับผิดชอบงานของตัวเอง เมื่อปาณิศามองไปที่เด็กๆ ในกลุุ่มเธอเห็นความหวัง “เตยมีพัฒนาการที่เป็นเชิงบวกมากขึ้น พอเขามาทำงานแบบนี้เขาก็รู้สึกว่ามันดีกว่าตอนที่เขาไปเที่ยวแล้วกลับบ้านตี 3-4 หรือกลับเช้า พอไปใช้พลังที่ไปทำงานกับเรา”
กิจกรรมของพลังโจ๋ ได้รับการยอมรับในระดับจังหวัด “เด็กเขาสามารถนำข้อมูลเนี่ยไปส่งต่อได้ พลังโจ๋อบรมแกนนำในโรงเรียน แกนนำก็สามารถนำไปส่งต่อให้เด็กๆได้แค่เอาองค์ความรู้ไปบอกต่อนิดหนึ่ง คือฉุกคิดขึ้นได้ แล้วบอกต่อ” จิตตรี อนุสนธ์ นักสังคมสงเคราะห์ ประจำจังหวัดแพร่กล่าว “เด็กกลุ่มเสี่ยงเขาก็สามารถขึ้นมาอยู่ในสังคมได้เหมือนกัน ด้วยพลังเขามี เราจะเลือกใช้พลังเค้าได้ยังไง”
“ส่วนมากสังคมจะมองว่าเราเป็นเด็กเกเร เขาจะมองข้ามไป แต่่ว่าครั้งหนึ่งเราได้ลุกขึ้นมาทำประโยชน์ เขาจะหันกลับมามองเราใหม่” เตยกล่าว