คุณอยู่ที่นี่

ดูวิดีโอเรื่องนี้ได้ ที่นี่

หม่อน*เริ่มคบกับเพื่อนชายตอนอายุ 14 ปี หลังจากคุยกันทางเฟสบุ๊คได้สองเดือน เขาขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย และเขาไม่ต้องการป้องกัน ตอนแรกหนูกลัว แต่เขาบอกว่าเขาจะรับผิดชอบทุกอย่าง หม่อนเล่าเรื่องราวของเธอ

หลังจากนั้นไม่นานหม่อนก็ท้อง เพี่อนชายของหม่อนไม่ได้ทำตามที่พูดไว้กับเธอ หม่อนจึงหันมาขอความช่วยเหลือจากแม่ของเธอ แม่พาหม่อนไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่เพราะหม่อนอายุเพียงแค่ 14 ปี ทางโรงพยาบาลจึงแนะนำให้แม่พาหม่อนไปที่บ้านพักฉุกเฉินซึ่งเป็นของเอกชนโดยอยู่ภายใตัการดูแลของสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย  โดยสมาคมได้ช่วยเหลือแม่วัยรุ่น โดยให้ที่พักพิง ความช่วยเหลือทางการแพทย์ก่อนคลอด อบรมการดูแลทารก ให้คำปรึกษา และสนับสนุนภาวะทางจิตใจของแม่วัยรุ่น ให้คำปรึกษาด้านกฏหมาย รวมทั้งบริการด้านอื่นๆที่แม่วัยรุ่นต้องการ

หม่อนย้อนความถึงเมื่อครั้งที่เธออาศัยที่บ้านพักฉุกเฉินว่า อยู่ข้างนอกหนูก็มีแต่เครียด มีแต่คิดมาก ข้างนอกก็จะเจอสังคมแย่ๆค่ะ บางทีก็เห็นเขาไปยุ่งกับคนอื่นก็จะเจอสังคมแบบแย่ๆ เห็นเขามีดีอยู่ดี ก็รู้สึกแย่ อยู่ที่นี่ก็ได้รับการพูดคุยจากนักสังคมสงเคราะห์ ได้รับการพูดคุยจากทุกๆคน ทุกคนก็ให้กำลังใจข้างใน ทุกคนก็ให้กำลังใจหนู หนูก็รู้สึกดีค่ะ”

ฟาง* กับลูกน้อยวัย 11 เดือนของเธอ อาศัยอยู่กับพ่อแม่ในบ้านที่อยู่ทางใต้ของกรุงเทพ ฟางตั้งครรภ์เมื่ออายุได้ 16 ปี เธอเล่าว่า ตอนตั้งครรภ์ก็รู้สึกตกใจ คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อ ก็ไปปรึกษาแฟนก่อนว่าจะทำอย่างไร ต่างคนต่างไม่รู้เพราะไม่พร้อม

แม่ของฟางพาเธอไปบ้านพักฉุกเฉินที่อยู่ทางเหนือของกรุงเทพ แม่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น มัน พูดคำเดียวก็ได้ว่า ไม่พร้อม เขาเด็กเกินไปที่จะมีลูก”

ตอนอยู่สมาคมเค้าก็ให้ทำกิจกรรมบำบัด เกี่ยวกับวาดภาพและก็มีการพูดคุยแม่กับลูก และก็มีการอบรมเลี้ยงดูลูกในท้องฟางเล่าถึงเวลาที่เธออาศัยที่บ้านพักฉุกเฉิน กิจกรรมบำบัดได้ช่วยให้เราผ่อนคลาย ลดความเครียด มันได้ระบายออกมา

ตั้งแต่ทางสมาคมได้เริ่มจัดตั้งกลุ่มสนับสนุนจำนวนแม่วัยรุ่นที่ยกลูกให้กับสมาคมลดลง ภายใต้กิจกรรมของกลุ่มสนับสนุน พ่อแม่ของวัยรุ่นได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสนับสนุนกันและกัน เพื่อที่จะช่วยลูกๆของตนให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้

ที่ผ่านมาเราทำมาหลายปีแล้วกับผู้ปกครอง” ณัฐิยา ทองศรีเกตุ ผู้อำนวยการบ้านพักฉุกเฉินกล่าว “ซึ่งเราพบว่าการทำงานกับเด็กอย่างเดียวมันไม่สามารถแก้ปัญหาท้องไม่พร้อมได้ นั่นหมายความว่าเด็กๆวัยรุ่นเมื่อคลอดออกมาแล้ว ไม่มีผู้ใหญ่ ไม่มีทางออก ไม่มีพ่อแม่ผู้ปกครองคอยให้คำปรึกษาหรือคอยช่วยเหลือเนี่ยเค้าไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตลอดรอดฝั่ง”

ณัฐิยาเล่าว่าในจำนวนผู้หญิงที่เข้ามาที่บ้านพักฉุกเฉินราว สามสิบเปอร์เซ็นเป็นหญิงวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อม ส่่วนมากมาจากการละเมิดทางเพศ และการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน “ที่นี่เราจะให้ความรู้ในเรื่องเพศศึ่กษาช่วงหนึ่ง ทำในเรื่องการป้องกัน นั่นหมายถึงเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาและท้อง เราจะทำในเรื่องการวางแผนครอบครัวการคุมกำเนิด ที่นีเราใช้ในเรื่องการฝังแคปซูลซึ่งมีระยะเวลาในการคุมกำเนิดห้าปี” ณัฐิยาเสริมว่า“เพราะเวลาในกรณีเด็กอายุ 14 ปี ท้องขี้นมาถ้าเค้ามีการคุมกำเนิดไปห้าปี อย่างน้อยถ้าเค้าไปมีครอบครัว หรือไปมีแฟนใหม่จะจะตั้งครรภ์ได้อีกครั้งก็อายุ 19 ปี ก็คิดว่าเค้าก็โตขึ้นมากแล้ว”

การได้รับโอกาสในการศึกษาต่อทำให้แม่วัยรุ่นตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง นี่คือหนึ่งในมาตรการแก้ปัญหาภายใต้พระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 หนึ่งในบริการที่สมาคมให้คือการดูแลลูกๆของแม่วัยรุ่นที่ต้องการกลับไปเรียนต่อ หลายคนเลือกที่จะทำงานไม่เต็มเวลาเพื่อที่จะได้มีรายได้เลี้ยงดูลูกและศึกษาต่อในภาคการศึกษานอกโรงเรียน

ฟางมาจากครอบครัวใหญ่ พ่อของเธอตั้งความหวังกับลูกๆ ทั้งเก้าคนของเขา เรามีกฏเหล็กหลักๆในบ้านนี้คือลูกเราต้องเรียนจบให้ได้ถึงแม้จะโดนมรสุมอะไรก็ตาม เราต้องผลักให้จบ เพราะเรารู้ว่ มันจะมีคนเก่งซักกี่คนที่ไม่ผ่านการศึกษาจนสำเร็จ และประสบผลสำเร็จ ในสังคมจริงๆ เมื่อคุณเดินเข้าไปในสนามของการทำงานแล้วเนี่ย คุณก็คือหนึ่งในแรงงาน ถ้าการศึกษาคุณอยู่แค่นี้คุณก็ได้แค่นี้ ถ้าการศึกษาสูงขี้นมาคุณก็จะได้ค่าตอบแทนสูงขึ้นมา นั่นคือความจริง พ่อของฟางกล่าว

หม่อนต้องออกจากโรงเรียนตอนมัธยม 4 เมื่อเธอตั้งครรภ์ แต่เธอวางแผนที่จะกลับไปเรียนต่อโรงเรียนพาณิชย์สำหรับวันอาทิตย์ หนูว่าจะเลี้ยงลูกเองวันจันทร์ ถึงเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์ จะไปฝากแม่เลี้ยง” หม่อนเสริมว่า“ก็อยากจะบอกทุกๆคนว่าผู้ชายก็ไม่ได้รักเราจริง พ่อแม่ที่รักเราจริง เวลาที่ผู้ชายบอกรักเรา เขาไม่ได้จริงใจเสมอไป”  หม่อนเล่าพร้อมน้ำตา

*นามสมมุติ